เพราะการดื่มกาแฟให้ได้อรรถรสนั้น ควรมาจากเมล็ดกาแฟที่คั่วสดและบทใหม่ สำหรับคอกาแฟหลายๆท่าน ที่มีเครื่องชงกาแฟอยู่แล้วที่บ้าน จึงมักขาดเครื่องบดกาแฟไม่ได้เช่นกันแล้ววันนี้เราจะมาพูดถึง5 เครื่องบดกาแฟ คุณภาพเยี่ยมที่น่าใช้ ปี 2021 ที่คอกาแฟนิยมใช้ !ที่เราได้รวบรวมมาเฉพาะรุ่นที่มีความน่าใช้ รวมไปถึงคุณสมบัติพิเศษที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไรนั้นมาดูกันเลยดีกว่า
วิธีเลือกใช้เครื่องบดกาแฟ
ซึ่งเราจะมาเริ่มจากการเลือกใช้เครื่องบดกาแฟที่มีคุณภาพ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องบดกาแฟในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายยี่ห้อและหลายรุ่นที่ได้ผลิตออกมาแข่งขันกันอย่างมากมายดังนั้นเราจึงรวบรวมวิธีพิจารณามาให้คุณได้ทำความเข้าใจกันแบบนี้ง่ายๆดังนี้ สล็อตแตกง่าย
พิจารณาจากวัสดุที่ใช้ผลิต ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งเรื่อง โดยให้คุณพิจารณาจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตว่าได้มาตรฐานและปลอดภัยต่อการใช้งานหรือไม่ สำหรับวัสดุบางชนิดอาจมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ก็มีคุณภาพในการใช้งานได้อย่างทนทานแข็งแรงและมีระยะการใช้งานที่ยาวนานกว่าวัสดุบางประเภท หรือหากวัสดุที่มีคุณภาพต่ำการใช้งานก็อาจมีระยะเวลาสั้นจึงอาจทำให้คุณเสียเงินซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงควรพิจารณาจากวัสดุที่มีคุณภาพเพื่อความคุ้มค่าต่อการใช้งานของคุณ
พิจารณาประเภทของเครื่องบดกาแฟ คือการให้คุณเลือกประเภทของเครื่องบดกาแฟที่คุณต้องการใช้งานให้เหมาะสม เพราะในปัจจุบันนั้นมีการผลิตที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีรายละเอียดเฉพาะตัวในการบดเมล็ดกาแฟของแต่ละชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเลือกใช้งานอย่างเหมาะสมก็ยิ่งทำให้เมล็ดกาแฟของคุณยิ่งมีความหอมและรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดขั้นตอนของความยุ่งยากในการใช้งานออกไปได้อีกด้วย
พิจารณาจากกำลังไฟฟ้า ซึ่งในตัวเครื่องของเครื่องบดกาแฟแต่ละรุ่นนั้นใช้กำลังไฟฟ้าที่มีขนาดไม่เท่ากัน ดังนั้นคุณควรตรวจสอบในเรื่องของกำลังการใช้ไฟฟ้าให้อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะมีผลกับค่าใช้จ่ายต่อการทำงานในหนึ่งครั้งอย่างเช่นเรื่องค่าไฟเป็นต้น
พิจารณาจากมาตรฐานการผลิต ซึ่งหากเป็นเครื่องบดกาแฟที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าคุณควรตรวจสอบในเรื่องของมาตรฐานการผลิตให้ถี่ถ้วน เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยต่อการใช้งานของผู้ใช้ หากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ควรผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัยที่ถูกรับรองมาอย่างเรียบร้อย จะช่วยทำให้คุณอุ่นใจที่จะใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมาตรฐานในการผลิตนั้นมีผลต่อระยะเวลาของการใช้งาน เพราะหากผ่านการผลิตที่ดีอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นย่อมมีคุณภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
พิจารณาพื้นที่สำหรับการจัดเก็บ ซึ่งขนาดของเครื่องกาแฟในแต่ละรุ่นนั้นมีขนาดที่ไม่เท่ากันบางรุ่นมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และในบางรุ่นมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกซื้อคุณควรทราบเสียก่อนว่าคุณต้องการวางในตำแหน่งใดของพื้นที่ ที่คุณต้องการใช้งาน การเลือกขนาดที่เหมาะสมก็จะทำให้พื้นที่ของคุณดูเป็นระเบียบ ไม่รกและไม่สร้างความเกะกะให้กับคุณ
1. เครื่องบดกาแฟ BUONO รุ่น BUO-12CG03
มาเริ่มต้นกันกับรุ่นแรกที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ซึ่งก็คือ เครื่องบดกาแฟ BUONO รุ่น BUO-12CG03 ซึ่งเค้าบอกเลยว่าเป็นเครื่องบดกาแฟที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงมากสามารถบทได้ละเอียด มาในรูปแบบอัตโนมัติที่ทำให้คุณสามารถเลือกระดับการบดได้สูงสุดถึง 31 ระดับ ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความพอใจของผู้ดื่ม มีดีไซน์ที่สวยงามที่ซ่อนความคลาสสิคไว้อย่างลงตัว เหมาะกับการตกแต่งร้านในสไตล์วินเทจหรือบ้านในสไตล์ย้อนยุค
เหมาะกับการบดเมล็ดกาแฟในปริมาณมาก ซึ่งหากคุณใช้งานในบ้านก็สามารถบดเม็ดกาแฟได้จำนวนมากได้พร้อมกันทั้งครอบครัว อีกทั้งยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชงกาแฟในร้านเล็กๆ ใช้งานง่ายเพราะมีการทำงานที่ไม่ซับซ้อน มีขนาดกำลังพอดีประมาณ 110 x 180 x 300 มิลลิเมตร ถือเป็นเครื่องบดกาแฟที่น่าใช้งานอย่างยิ่ง นอกจากจะมีรูปลักษณ์สวยงามแล้วยังมีความปลอดภัยต่อการใช้งานอย่างมาก
รายละเอียดสินค้า
- ขนาด 110 x 180 x 300 มิลลิเมตร
- กำลังไฟ 180 วัตต์
- ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ 275 กรัม
ราคา 3,351 บาท จาก Lazada
Link ซื้อ : เครื่องบดกาแฟ BUONO รุ่น BUO-12CG03
www.lazada.co.th/products/buono
Youtube : เครื่องบดกาแฟ BUONO รุ่น BUO-12CG03
2. เครื่องบดกาแฟ KENEIYA Coffee grinder
มาต่อกันกับอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งานคือ เครื่องบดกาแฟ KENEIYA Coffee grinder ซึ่งเป็นเครื่องบดกาแฟในลักษณะตั้งโต๊ะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถบดกาแฟได้ในปริมาณมากและสูงสุดถึง 1200 มิลลิลิตร มีการทำงานด้วยระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการบดเมล็ดกาแฟได้อย่างละเอียด ด้วยการใช้งานของกำลังไฟ 1000 วัตต์ สามารถรองรับผู้ดื่มกาแฟได้ถึงครั้งละ 10 ที่ หากนำมาใช้งานในบ้านจึงเหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ หรือสามารถใช้งานในร้านกาแฟขนาดย่อมได้
มีดีไซน์ที่สวยงามด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับปุ่มควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิตอล อีกทั้งยังมีหน้าจอที่แสดงผลการทำงานอย่างชัดเจน ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถรองรับจำนวนสมาชิกในการดื่มกาแฟได้ครั้งละจำนวนมาก และเป็นเครื่องบดกาแฟที่น่าใช้งานอีกหนึ่งรุ่น
รายละเอียดสินค้า
- ขนาด 270 x 190 x 300 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 3,000 กรัม
- ใช้วัสดุ แสตนเลส
- กำลังไฟ 1,000 วัตต์
- ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ 275 กรัม
- 1,200 กรัม
ราคา 2,072 บาท จาก LAZADA
Link ซื้อ : เครื่องบดกาแฟKENEIYA Coffee grinder
www.lazada.co.th/products/coffee-grinder
3. เครื่องบดกาแฟ HUANGCHENG รุ่น 600N
มาต่อกันกับเครื่องบดกาแฟสุดคลาสสิคที่สายวินเทจไม่ควรพลาดคือ เครื่องบดกาแฟ HUANGCHENG รุ่น 600N ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความสวยงามจึงเป็นที่นิยมในการนำมาตกแต่งร้านกาแฟต่างๆ อีกทั้งยังสามารถบดกาแฟได้ครั้งละจำนวนมากถึง 250 กรัม ใช้กำลังไฟ 350 วัตต์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบดกาแฟได้อย่างละเอียด และสามารถเลือกระดับของการบดได้ถึง 8 ระดับ เป็นเครื่องบดกาแฟที่มีพอเหมาะไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปเพียง110 x 180 x 300 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เกิน 4 ท่าน เป็นอีกหนึ่งเครื่องที่น่าสนใจและน่าใช้งานอย่างยิ่ง
รายละเอียดสินค้า
- ขนาด 110 x 180 x 300 มิลลิเมตร
- กำลังไฟ 350 วัตต์
- ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ 250 กรัม
- ใช้พลังงานในการเปิดเครื่องไม่สูงมากนัก
- สามารถปรับระดับของการบทได้มากถึง 8 ระดับ
ราคา 1,049 บาท จาก Lazada
Link ซื้อ : เครื่องบดกาแฟ HUANGCHENG รุ่น 600N
www.lazada.co.th/products/grinder-600n
Youtube : เครื่องบดกาแฟ HUANGCHENG รุ่น 600N
4. เครื่องบดกาแฟ Worldtech รุ่น WT-CG-M150C
มาต่อกันที่เครื่องบดกาแฟที่มีดีไซน์ทันสมัยสวยงามและเรียบหรูซึ่งก็คือ เครื่องบดกาแฟ Worldtech รุ่น WT-CG-M150C ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบดได้ทั้งเมล็ดกาแฟและเมล็ดธัญพืชที่มีความแข็งทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเม็ดถั่วเม็ดอัลมอนด์ก็สามารถทำได้แบบไม่ยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งยังสามารถใช้เครื่องได้ง่าย สามารถใช้กำลังมอเตอร์ได้ถึง 150 วัตต์
มีประสิทธิภาพในการปั่นได้สูงสุดถึง 30,000 รอบต่อนาที และสามารถเริ่มต้นปั่นตั้งแต่ 15 วินาทีไปจนถึง 45 วินาที ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องที่สามารถบดกาแฟได้มีความละเอียดได้ตามมาตรฐาน ถือเป็นเครื่องบดกาแฟที่มีขนาดเล็กสามารถจุได้ไม่เกิน 50 กรัม ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องที่น่าใช้งานถึงจะจิ๋วแต่ก็แจ๋วจริงๆ
รายละเอียดสินค้า
- ขนาด 110 x 180 x 300 มิลลิเมตร
- กำลังไฟ 150 วัตต์
- ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ 50 กรัม
- สามารถโหลดได้ทั้งเมล็ดกาแฟและเมล็ดธัญพืช
ราคา 410 บาท จาก Shopee
Link ซื้อ : เครื่องบดกาแฟ Worldtech รุ่น WT-CG-M150C
shopee.co.th/Worldtech4268680502
Youtube : เครื่องบดกาแฟ Worldtech รุ่น WT-CG-M150C
5. เครื่องบดกาแฟ Timemore รุ่น Chestnut X
สำหรับรุ่นสุดท้ายที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ก็คือ เครื่องบดกาแฟ Timemore รุ่น Chestnut X ถือเป็นเครื่องบดกาแฟที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีน้ำหนักเบาเพียง 760 กรัม ที่ทำให้คุณสามารถพกพาได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมาในรูปลักษณ์และดีไซน์ที่มีความสวยงามคลาสสิคอย่างลงตัว ที่ซ่อนความหรูหราน่าค้นหาสะดุดตาเมื่อได้พบ มีประสิทธิภาพในการบดกาแฟได้อย่างละเอียด ที่สามารถปรับระดับของความละเอียดได้มากถึง 23 ระดับ
มีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าถึงจะจิ๋วแต่ก็แจ๋ว ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีอย่างAluminum Alloyที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานอย่างยิ่ง ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เป็นการทำงานแบบใช้มือหมุน ซึ่งใช้นวัตกรรม ตัดแล้วบด ด้วยเฟืองบด S2C ใช้กำลังไฟ 180 วัตต์ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องที่น่าใช้งานที่คอดริฟกาแฟไม่ควรพลาด
รายละเอียดสินค้า
- ขนาด 160 x 55 มิลลิเมตร
- กำลังไฟ 180 วัตต์
- น้ำหนัก 760 กรัม
- ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ 35 กรัม
- วัสดุเครื่องบดทำจาก อลูมิเนียม
- ที่จับก้านบดทำจากโลหะ
- บดกาแฟได้ครั้งละ 35 กรัม
- เฟืองบด S2C เป็นนวัตกรรม ตัดแล้วบด ช่วยให้การบดนุ่มขึ้น ใช้แรงน้อย และ รอบบดน้อยลง
- ตัวแกนหมุนปรับระดับ มีตัวเลขบอกจำนวนคลิ๊ก และมีเลขย่อย ช่วยให้การบดง่ายและแม่นยำ ได้กาแฟที่สม่ำเสมอ
- ในกล่องประกอบด้วย ตัวเครื่องบด ก้านหมุน ถุงผ้า และ แปรงปัดกาแฟ
ราคา 8,180 บาท จาก Shopee
Link ซื้อ : เครื่องบดกาแฟ Timemore รุ่น Chestnut X
shopee.co.th/i.130589585.3965179700
Youtube : เครื่องบดกาแฟ Timemore รุ่น Chestnut X
การดูแลรักษาเครื่องบดกาแฟ
สำหรับวิธีการรักษาทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟ ทำได้ไม่ยากโดยเริ่มต้นจากการ ไม่เก็บเม็ดกาแฟที่บดแล้วไว้ใน Dozer 1 ชั่วโมง และควรทิ้งกาแฟที่บทแล้วออกจาก Dozer ในทุกๆวัน
อีกทั้งคุณไม่ควรทิ้งให้เมล็ดกาแฟค้างอยู่ใน hopper เกิน 1 วัน และในทุกๆวันหากมีเมล็ดกาแฟเหลือ ให้คุณนำไปใส่ภาชนะอื่นที่เหมาะสมโดยไม่ควรปล่อยทิ้งค้างไว้ใน hopper อยู่เป็นอันขาดเพราะอาจทิ้งคราบสิ่งสกปรกไว้ได้ จากนั้นให้คุณนำชิ้นส่วนต่างๆออกมาล้างและเช็ดให้แห้ง ทั้งชิ้นส่วนและตัวเครื่องของเครื่องบดกาแฟ ให้คุณทำแบบนี้ทุกวัน
จากนั้นให้คุณตรวจเช็คใบมีด และเปลี่ยนใบมีดของเครื่องบดกาแฟหลังจากที่ได้มีการใช้งานไปเกิน 500 กิโลกรัมแล้ว หรือประมาณช่วงระยะเวลา 6-9 เดือน และคอยเปลี่ยนชนิดของใบมีดให้เหมาะสมกับเมล็ดกาแฟหรือสิ่งที่คุณต้องการจะบด เพียงเท่านี้เครื่องบดกาแฟของคุณก็จะยังคงสภาพความใหม่และน่าใช้อยู่ตลอดเวลา
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเรื่องราวของเครื่องเครื่องบดกาแฟในรุ่นต่างๆ ที่เราได้นำมาเสนอทุกท่านผ่านบทความ 5 เครื่องบดกาแฟ คุณภาพเยี่ยมที่น่าใช้ ปี 2021 ที่คอกาแฟนิยมใช้ !ในครั้งนี้ซึ่งเราหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์ และสนุกสนานกับการอ่าน สำหรับครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนแล้วพบกันใหม่กับบทความในครั้งหน้าจะมีเรื่องราวใดมาเล่าสู่กันฟังอีกนั้นต้องรอติดตามกันต่อไป พวกเราทีมงานขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่คอยติดตามกันมาเสมอ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้
Taxx เครื่องบดกาแฟ
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ